areastep ทีเด็ดบอลเดี่ยว ทีเด็ดสเต็ป ข่าวฟุตบอล
ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัด “แดงเดือด” สุดคลาสสิก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่สนามแอนฟิลด์ จบลงด้วยความสะใจของแฟนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังบุกคว้าชัยเหนือ ลิเวอร์พูล 2-1 ในเกมที่ทั้งสองทีมสู้กันอย่างดุเดือดตั้งแต่ต้นจนจบ คว้าสามคะแนนสำคัญกลับบ้าน ส่วนเจ้าถิ่นต้องพบความพ่ายแพ้ในลีก 3 นัดติด และรวมแพ้ 4 นัดรวดในทุกรายการ
บรรยากาศก่อนเกมเต็มไปด้วยความคึกคัก เสียงเชียร์ของแฟนบอลทั้งสองฝั่งดังกระหึ่มทั่วสนาม “แอนฟิลด์” ลิเวอร์พูลกลับมาเล่นต่อหน้าแฟนตัวเองด้วยแรงกดดันมหาศาล หลังฟอร์มช่วงหลังไม่ดีนัก ส่วนแมนฯ ยูฯ เดินทางมาพร้อมความมั่นใจจากผลงานที่เริ่มเข้ารูปในช่วงหลัง
เริ่มเกมได้เพียงนาทีเศษ “ผีแดง” ทำช็อกแฟนเจ้าถิ่นทันที เมื่อ อาหมัด ดิยัลโล่ หลุดขึ้นทางขวา ก่อนจ่ายทะลุแนวรับให้ ไบรอัน เอ็มเบอโม่ หลุดเดี่ยวซัดบอลผ่านมือ จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ เข้าประตูไปอย่างเฉียบขาด ส่งให้ทีมเยือนออกนำเร็ว 1-0 สร้างแรงสั่นสะเทือนให้ทั้งสนามตั้งแต่ต้นเกม
หลังเสียประตู ลิเวอร์พูลพยายามตั้งเกมกลับมาและครองบอลได้มากกว่า แต่แนวรับของแมนฯ ยูฯ เล่นกันอย่างมีวินัย และยังมี เซนเน่อ ลัมเมนส์ ที่ช่วยเซฟได้หลายครั้ง นาทีที่ 20 เจ้าถิ่นเกือบตีเสมอ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ไหลบอลให้ โกดี้ คักโป ปั่นด้วยซ้ายโค้งเสียบเสา แต่บอลกลับชนเสาเต็มแรงอย่างน่าเสียดาย
ช่วงท้ายครึ่งแรก ลิเวอร์พูลยังคงบุกหนัก อเล็กซานเดอร์ อีซัค ได้โอกาสทองจากการหลุดเดี่ยวแต่ยิงติดเซฟของ ลัมเมนส์ ทำให้ครึ่งแรกจบลงด้วยสกอร์ 0-1 โดยแมนฯ ยูฯ ยังคงรักษาความได้เปรียบไว้ได้
เข้าสู่ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลเดินเกมเร็วทันที พยายามเปิดเกมรุกกดดันต่อเนื่อง นาทีที่ 49 ซาลาห์ เปิดฟรีคิกเข้าเขตโทษให้ คักโป ยิงด้วยขวาแต่บอลชนเสาอีกครั้ง เสียงแฟนบอลเจ้าถิ่นถึงกับถอนหายใจพร้อมกันทั้งสนาม
เกมรุกของเจ้าบ้านยังคงดุดัน นาทีที่ 64 เคอร์เคซ เติมเกมขึ้นมาทางซ้าย เปิดบอลเข้าเขตโทษให้ ซาลาห์ ได้ยิงจ่อๆ แต่ ลัมเมนส์ พุ่งออกมาปิดมุมเร็วช่วยทีมรอดพ้นไปอีกครั้ง ก่อนที่ในนาทีที่ 78 ความพยายามของ “หงส์แดง” จะสำเร็จ เคียซ่า เปิดบอลเข้ามาให้ คักโป แตะเข้าไปยิงระยะเผาขนตีเสมอเป็น 1-1 ท่ามกลางเสียงเฮลั่นของแฟนบอลทั่วแอนฟิลด์
แต่ความดีใจของเจ้าถิ่นอยู่ได้ไม่นาน นาทีที่ 84 แมนฯ ยูฯ มาได้ประตูชัยจากจังหวะเตะมุม บรูโน่ แฟร์นันด์ส เปิดบอลโด่งเข้าเขตโทษ และเป็น แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่สอดขึ้นมาโขกเต็มศีรษะส่งบอลตุงตาข่าย กลายเป็นประตูสำคัญให้ทีมเยือนแซงนำ 2-1
ช่วงท้ายเกม ลิเวอร์พูลบุกแบบหมดหน้าตัก พยายามยิงทุกทางแต่แนวรับของแมนฯ ยูฯ ยืนกันเหนียวแน่น โดยเฉพาะ ลัมเมนส์ ที่โชว์ซูเปอร์เซฟในช่วงทดเวลาออกไปอีกสองจังหวะ สุดท้ายหมดเวลาการแข่งขัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 คว้าชัยชนะสุดล้ำค่ากลับออกจากแอนฟิลด์ได้สำเร็จ
ชัยชนะครั้งนี้ไม่เพียงช่วยให้แมนฯ ยูฯ ฟื้นความมั่นใจ แต่ยังเป็นเครื่องยืนยันถึงพัฒนาการของทีมภายใต้แท็กติกที่เน้นเกมรัดกุมและเปลี่ยนจังหวะสวนกลับได้เฉียบคม ขณะที่ฝั่งลิเวอร์พูลยังคงต้องหาทางแก้เกมรับและเพิ่มความเฉียบคมในพื้นที่สุดท้าย หากต้องการกลับมาลุ้นพื้นที่หัวตารางในช่วงต่อไป
เกม “แดงเดือด” ครั้งนี้เต็มไปด้วยอารมณ์ ความเข้มข้น และจังหวะพลิกไปมาไม่ต่างจากฉากดราม่าในฟุตบอลคลาสสิก และในค่ำคืนแห่งแอนฟิลด์ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ก็กลายเป็นฮีโร่คนใหม่ของ “ปีศาจแดง” อย่างเต็มภาคภูมิ