เอกิติเก้ โชว์ฟอร์มจัดเต็ม เกม ลิเวอร์พูล บุกถล่ม แฟร้งค์เฟิร์ต

เอกิติเก้ โชว์ฟอร์มจัดเต็ม เกม ลิเวอร์พูล บุกถล่ม แฟร้งค์เฟิร์ต

อูโก้ เอกิติเก้ แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าพร้อมสำหรับบทบาทตัวจริงแดนหน้าแบบถาวร หลังเกมที่ ลิเวอร์พูล บุกไปถล่ม ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต 5-1 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบลีก เฟส นัดสาม

อูโก้ เอกิติเก้

เกมนี้ เอกิติเก้ได้รับโอกาสลงตัวจริงในรังเก่า และไม่ทำให้ผิดหวัง เริ่มต้นด้วยการช่วยทีมตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 35 หลังจากที่แฟร้งค์เฟิร์ตขึ้นนำตั้งแต่ช่วงต้นเกมก่อนหน้านี้ แม้สุดท้ายจะถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 74 แต่ฟอร์มของเขาตลอด 70 กว่านาทีนั้นชัดเจนว่า “ครบเครื่องทุกด้าน”

สถิติในเกมนี้บอกได้เลยว่า เอกิติเก้ไม่ใช่แค่ผู้เล่นหน้าใหม่ แต่เป็นกำลังสำคัญของเกมรุกและเกมรับในเวลาเดียวกัน

• สัมผัสบอลในเขตโทษคู่แข่ง 7 ครั้ง – เป็นตัวเลขที่แสดงให้เห็นว่าเขาเข้ามามีส่วนกับเกมรุกต่อเนื่อง และคอยสร้างแรงกดดันให้แนวรับฝ่ายตรงข้ามแทบไม่เว้นช่วง
• ชนะดวลคู่แข่ง 5 ครั้ง – ไม่ใช่แค่รุกเก่ง แต่ยังแสดงให้เห็นความดุดันในการคุมพื้นที่กลางสนามและการแย่งบอล
• สร้างโอกาสยิง 3 ครั้ง – ทำให้เห็นว่าเอกิติเก้มีความเฉียบคม และคอยสร้างความอันตรายในกรอบเขตโทษ
• ยิงเข้ากรอบ 2 ครั้ง – เกมรุกของ ลิเวอร์พูล ต่อเนื่องและคมกริบ มีส่วนทำให้ทีมบุกได้สนุกและเต็มไปด้วยโอกาส
• เข้าปะทะและสกัด 2 ครั้ง – ไม่ใช่แค่เกมรุกดี แต่ยังช่วยป้องกันไม่ให้ทีมเสียบอลง่าย และคอยกดดันแนวรุกฝ่ายตรงข้าม

สิ่งที่เห็นชัดเจนจากฟอร์มนี้คือ เอกิติเก้ไม่ใช่แค่ตัวเลือกสำรองที่รอจังหวะ แต่สามารถเป็นตัวหลักที่ทีมวางใจได้ทันทีในทุกเกมสำคัญ เกมนี้ยังสะท้อนให้เห็นว่า ลิเวอร์พูล เริ่มมีความหลากหลายในการวางแนวรุกมากขึ้น ไม่ว่าจะเจอคู่แข่งทีมใหญ่หรือเกมในยุโรป เอกิติเก้สามารถเข้ามาเปลี่ยนจังหวะและสร้างโอกาสได้ตลอดเวลา

นอกจากนี้ เกมนี้ยังบ่งบอกว่าเอกิติเก้สามารถปรับตัวเข้ากับระบบการเล่นของทีมได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งหาพื้นที่ การเชื่อมเกมกับเพื่อนร่วมทีม หรือการเข้ามามีส่วนร่วมกับการต่อบอลหลายจังหวะในแดนหน้า เรียกได้ว่าเป็นตัวหลักที่คอยเติมเต็มเกมรุกแบบครบเครื่องจริงๆ

สุดท้าย การบุกถล่มแฟร้งค์เฟิร์ต 5-1 ยังช่วยยืนยันว่า ลิเวอร์พูล มีความพร้อมสำหรับทุกเกมยุโรป และการที่เอกิติเก้สามารถสอดแทรกและสร้างผลกระทบแบบนี้ ทำให้แนวรุกของทีมมีมิติและความคมกริบมากขึ้น ไม่ต้องพึ่งเพียงแค่ตัวหลักเดิม

ถ้าฟอร์มแบบนี้ยังต่อเนื่อง บอกได้เลยว่า เอกิติเก้จะกลายเป็นตัวจริงที่ทีมขาดไม่ได้ แถมยังเป็นอีกหนึ่งตัวที่สามารถเปลี่ยนเกมและทำให้เกมรุกของ ลิเวอร์พูล มีความอันตรายแบบไม่หยุดยั้ง